วันศุกร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2553
งานประจำ ที่แสนจะมั่นคง ^^
บนพื้นดินที่แห้งแล้งแผดเผาไปด้วยเปลวไฟแห่งแสงแดด ฝูงแกะจำนวนไม่น้อยต่างดิ้นรนยื้อแย่งหาร่มเงาของต้นไม้ที่มีเพียงน้อยนิดบนพื้นทะเล ทรายแห่งนี้ ทั้งเบียดเสียดแออัดยัดเยียดดก็น่าแปลกประหลาดใจไม่น้อย หากมันคิดได้ว่าการไปแย่งๆกันอัดๆแบบนั้นคงจะร้อนกว่าก็เป็นได้...
ทว่า นั้นไง !!! มีแกะตัวนึง นอนลั้นล๊าอยู่กลางแดดด สงสัยมันก็คงเอือมระอากับการยื้อแย่งเทือกๆนั้นนกระมัง ^^
ชีวิต งานประจำคุณเป็นอย่างนี้เหรอเปล่า ?? มันคือที่พึ่งสุดท้ายหรือเปล่า ??หล่ะหากว่าต้นไม้ต้นนั้นที่คุณใช้ทั้งชีวิตเพื่อมัน เกิดล้มหายตายจาก เกิดอยู่ๆมีคนมาแย่งที่ร่มเงาของคุณ คุณจะทำอย่างไร ??
ชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก อย่างน้อยก็สั้นมากพอที่ควรเสียเวลาน้อยๆกับต้นไม้เพียงต้นเดียว
ถ้าเปรียบชีวิตเหมือนรูบิค ที่เราหมุนๆวนๆ จนทุกๆด้านสลับสับสนไปด้วยสีต่างๆมากมาย
งานคือด้านนึง
ครอบครัวคือด้านนึง
สุขภาพคือด้านนึง
คนรักคือด้านนึง
ประเทศคือด้านนึง
บลาๆแล้วแต่จะนิยามด้านของแต่ละคนคงเพี้ยนๆไม่เหมือนกัน
การที่เราบิดรูบิคที่ปะปนไปด้วยสีที่ยุ่งเหยิงให้เข้ารูปเข้ารอยด้วยสีเพียงสีเดียวววว
เจ๋งมาก!! (ผมยังบิดรูบิคให้ได้ด้านเดียวสีเดียวยังไม่ได้เลย 55)
ทว่าวันนึง โอ้ววโหวววคุณไต่เต้าในหน้าที่การงานเปรียบเหมือนหมุนด้านนึงของรูบิคให้เรียบด้วยสีเดียว
แหมมันเท่ห์จริงๆๆ !!~
แต่ก็คงไร้ความหมายถ้าสุขภาพคุณแบบว่า เอ่อจะไปแล้วว ครอบครัวไม่ยิ้มให้กัน เอาเปรียบเพื่อนๆ บลาๆๆ
ยาก ไม่น้อยที่เราจะจัดระเบียบด้านทุกด้านไปด้วยเฉดสีเพียงเฉดสีเดียว มันยาก มันโครตๆๆ แต่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ ไม่ลองดูสักตั้งงงหล่ะ ??
สมัยจอมพลปูปลาอะไรสักอย่างเนี่ยแหละ มันจะมีสโลกแกนที่ว่า งานคือเงิน เงินคืองาน บันดาลสุข รุ่นไหนแล้วก็ไม่รู้
แต่ การที่มีเงินมากๆๆ จริงๆแล้วมันสุขเหรอป่าวว หากเงินมากๆแต่ต้องแลกทุกๆด้านของชีวิตไต่เต้าถึงจุดสุดยอดดดดด แต่อยู๋ตัวคนเดียวว มันจะ happy จริงๆเหรอ
อันนี้ก็คงเป็นมุมมองเล็กๆ ของแต่ละคนบนดาวเคราะห์ดวงที่สามมมมที่มีดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางงง
บางวันคุณอาจเจอความท้าทายแบบนี้จากหัวหน้างาน
น้องๆ เพ่หัวหน้าขอวันนี้นะ !!
"ชิหายหล่ะ เย็นนี้นัดเดทกับสาวกินข้าวกับลูกเมีย จะทำไงดีหล่ะ ??"
คุณอาจจะอุทานในใจเบาๆพอให้เจ้านายไม่ได้ยินแล้วอาจต้องทำงานนั้นต่อไป..
และอาจจะท้าทายกว่าจากการประกาศของนายจ้าง
"อ่าเอ่อ สวัสดี พนักงานที่รัก เนื่องจาก ผลประกอบการของบริษัทเรา อ่า เอ่อออ ขาดทุน จำต้องปลดพนักงานนน"
เอาแล้วงัย!!~ ต้นไม้กิ่งหัก ก็คงมีที่พักให้เหล่าแกะน้อย น้อยลงไปอีก...................
คงโทษใครไม่ได้ เมื่อประเทศเราอ้าแขนรับระบอบทุนนิยมมาเต็มเปา การป่าวประกาศด่าทอให้เปลี่ยนนู้นนี้นั้น คงยากกว่าเปลี่ยนตัวเองเยอะนัก
สิงคโปร์ คงเป็นตัวอย่างที่พอนึกออก ประเทศเพ่เค้าส่งเสริมอยู่เรื่องนึงคือ "การออม" ประมาณ 40% ของรายได้ประชาชน ที่รัฐบาลและประชาชนช่วยกันออมแล้วขนเงินตรงนี้ไปลงทุนมากมายไว้ในหลายๆ ประเทศ คนไทยก็คงคุ้นๆกับกองทุนเทมาเส็ก นั้นแหละ นโยบายประเทศมัน...แล้วมันก็ขนเงินที่ได้จากการลงทุนพวกปันผลไรงี้กลับประ เทศมัน จนบ้านมันมีนู้นนี้นั้นสร้างนู้นนั้นนี้ได้เต็มบ้านเต็มเมือง
คุณภาพชีวิตก็ดีกว่า อะไรๆก็ดีกว่า ต้องยอมรับว่าวิสัยทัศผู้นำบ้านมันสุดยอดจริงๆๆ
จีนนี้ยิ่งแล้วใหญ่เลยเก็บออมเก่งจนอเมกาเป็นหนี้เหนาะๆ แปดร้อยล้านล้านเหรียญ...
เอาหล่ะ หากเราไม่ใช่ผู้นำประเทศ ก็อย่าน้อยใจไปเลยยยที่เปลี่ยนนูนนี้นั้นไม่ได้
รั้วหลังบ้านเรายังมีก็ค่อยๆปลูกต้นไม้สักต้นนน ไว้ให้เป็นร่มเงาอีกต้นก็ได้..
การออม เป็นการสร้างวินัยสุดคลาสสิคที่ทำได้ยากมาก (ถ้าคนไม่เคยนะ) แต่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพสหกรณ์ที่แต่ละบริษัทก็เป็นตัวอย่างที่ดีที่ส่งเสริมการออมให้พนักงานเงินเดือนที่เงินมักจะเดือดๆระเหยไปบ่อยๆๆ
ในวันนี้ยังมีต้นไม้ให้ร่มเงาอีกตั้งหลายต้นเยอะแยะบานเบอะ
ก็ลองมองๆหากับสิ่งที่เหมาะกับตัวเราดูนะค๊าบบบบ ^^ ยู้วฮู้วๆๆๆ
แล้ววันนึงคุณก็ต้องแก่แบบนี้มันเป็นสิ่งที่ชัวร์ไว้ว่าคุณจะดึงหน้ายันตาไว้แค่ไหนก็ต้องแก่
แล้วสิ่งที่คุณได้หักเก็บไว้ในตอนที่คุณมีแรงมันจะสร้างชีวิตดีๆของคุณในบั้นปลายยยยย
คุณจะ happy โย่วๆๆ ได้อย่างมีความสุข เกษียญตัวเองโดยไม่ต้องเป็นภาระใคร ^^
จนวันนึงก็ตะโกนบอกท้องฟ้าดังๆๆ ว่า HAPPY!!! แด่อิสรภาพพพพ ประมาณนั้น ^^
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น